1 มิถุนายน 2558

เรื่องของลิขสิทธิ์ และการคัดลอกข้อมูล(ของผู้อื่น)มาใช้


     สวัสดีครับ วันนี้ผมขออนุญาตนำบทความจากเว็บ meewebfree.com มานำเสนอว่าด้วยเรื่องของลิขสิทธิ์และการคัดลอกข้อมูลของผู้อื่นมาใช้นะครับ ซึ่งอยากจะมอบให้กับนักเขียนเนื้อหาทุกท่านที่กำลังดูเว็บของผมนี้ได้รับทราบและนำไปพิจารณานะครับว่า ควร หรือ ไม่ควร เหมาะ หรือไม่เหมาะ

ผมขออนุญาตยกบทความจากเว็บ meewebfree.com มาให้เพื่อนๆผู้เขียนอ่านนะครับ และขอให้เข้าใจว่า บทความด้านล่างนี้ เป็นบทความจากเว็บ meewebfree.com โดยตรง ไม่ได้มีารตัดแต่งแต่อยางใดครับ



"คนไทยมักจะคัดลอกข้อมูลของผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงเรื่องลิขสิทธ์ทางความคิดของผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้น หากเราร่วมกันมีจิตสำนึกที่ดี ย่อมสร้างสังคมที่สวยงามได้ครับ" - meewebfree.com



ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่นักกฏหมายแต่อย่างใด บทความนี้ถูกเขียนขึ้นมาด้วยสามัญสำนึกและหลักการเล็กน้อยที่พอจะทราบ+ ประสบการณ์ที่ผ่านมา
เพื่อถ่ายทอดให้ทุกท่านทราบว่าสิ่งใดเหมาะสม ไม่เหมาะสมในการนำข้อมูลของผู้อื่นมาใช้
บทความนี้เริ่มต้นจากผมได้ไปเห็นเว็บที่นึง ที่ในบอร์ดของเวบนั้นมีบทความนำมาลงอยู่เท่าที่ผมอ่านแล้วสิ่งนึงที่แน่ชัด เลยคือเขา Copy มาจากที่อื่น(อ่านจากภาษาที่ใช้) และมีการดัดแปลงลักษณะเล็กน้อย(แต่เนื้อหายังคงเดิม) ผมก็มองหาว่าเค้า Copy มาจากที่ไหน แต่ไม่มีครับ เค้าไม่ได้ระบุว่านำมาจากที่ใด

การกระทำแบบนี้เรียกว่า อ้างตัวเองเป็นเจ้าของสิทธิ์ เพราะในการออกความเห็นที่บอร์ดใดๆ ถ้าไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูล ก็จะถือว่า คนที่โพสต์นั้นคือเจ้าของข้อมูลครับ

เราลองมานั่งคิดกันง่ายๆครับ ใครที่เคยเขียนบทความ จะรู้ว่าใช้เวลาไปไม่น้อยในกว่าที่บทความของตัวเองจะเสร็จแต่กลับมีอีกคนนึง ลอกใส่เวบตัวเอง หรือไปโพสต์
เหมือนตนเองเขียนเอง ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน54 วินาที แต่ในมุมมองของคนอ่านที่ไม่รู้ว่า copy มาก็จะรู้สึกว่า 2 คนนี้เก่งเท่ากัน!!! อยากให้ลองคิดดูบ้างครับ ว่าถ้าเราเขียนบทความใหม่ขึ้นมาชิ้นนึง ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ ยังไม่มีที่ไหนแต่กลับถูกใครไม่รู้ ลอกไป แล้วเขาก็ทำให้มันมีมูลค่ามีชื่อเสียง โดยที่คุณ(คนเขียน)ไม่ได้รับอะไรเลย แม้แต่ลิขสิทธิ์ของข้อมูลคุณจะรู้สึกอย่างไรครับ

อาจารย์ของผมเคยบอกว่า เรื่องนี้ในต่างประเทศเค้าถือมากๆ ในเรื่องลิขสิทธิ์ของข้อมูลต่างๆเนี่ย ในต่างประเทศมีการฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์กันอย่างมากมายในทุกๆปี
ดังนั้น ในการทำรายงาน ,งานวิจัย,บทความ จึงจะต้องมีในส่วนของ "อ้างอิง" ความรู้ที่นำมาใช้ด้วยโดยมีจุดประสงค์ดังนี้

1.เพื่อให้ทราบว่า ความรู้นั้นมีอยู่แล้ว สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้
2.เพื่อให้รู้ว่าความรู้ที่นำมาใช้นั้น มีความน่าเชื่อถือเพียงใด
3.เพื่อให้สามารถแยกได้ว่า สิ่งใดคือความรู้ใหม่ สิ่งใดคือความรู้เดิม
4.จะทำให้มีผลต่อเครดิตผู้เขียนบทความนั้นๆ
5.สามารถอ้างอิงถึงความถูกต้องของบทความนั้นๆ
6.ความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นๆ

ซึ่งในข้อ4และข้อ6 นี้ คนไทยเรายังด้อยพัฒนาทางความคิดอยู่มากครับ ยกตัวอย่าง นาย ก ลอกบทความ การดัดแปลงคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากนาย ข
แต่ไม่ลงข้อความบอกว่า ลอกมาจากนาย ข เท่ากับว่าตอนนี้ผู้อ่านเข้าใจว่า นาย ก เป็นคนคิด ก็ต้องคิดแล้วว่านาย ก เก่ง แต่ต่อมา เกิดนาย ค ทำตามบทความที่นาย ก copy มา แล้ว เกิดปัญหากับคอมพ์ของนาย ค ซึ่งไม่มีทางแก้ไขได้ นาย ค ก็ต้องกลับไปทวงถามความรับผิดชอบจากนาย ก แต่ตอนนี้ล่ะครับ ที่นาย ก จะออกมาแสดงตนว่าบทความทั้งหมดเป็นของนาย ข ให้ทวงถามที่นาย ข เอง

ตัวอย่างนี้ล่ะครับ คือคนไทย รับผิดไม่เอา จะเอาแต่ชอบครับ ยังมีความรับผิดชอบต่ำประเทศไทยถึงได้เจริญช้า คิดเองไม่ได้ ได้แต่ลอกเค้ามาอย่างแนบเนียน(ยุคหลังเค้าจัดให้คนกลุ่มนี้เข้าประเภท เกรียนอินเตอร์เน็ตด้วยนะครับ ชอบ copy ข้อมูลคนอื่นเป็นนิจ) แต่ถ้าเราร่วมใจกันสักนิดนึง แค่ให้เครดิตว่านำมาจากที่ไหน เพียงเท่านี้ มันก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่คิดบทความดีๆแล้วล่ะครับ เพื่อที่เราจะได้มีบทความดีๆมาพัฒนาคนไทยกันเรื่อยๆ ช่วยกันพัฒนาสังคมการแลกเปลี่ยนข้อมูลครับ

แค่บรรทัดเดียวมันคงไม่ยากเกินไปนะครับ
ป.ล. บทความนี้เขียนขึ้นมาเอง 100% ไม่ได้มีการคัดลอกมาจากที่ไหนนะครับ เพื่อลงใน
MeeWebFree.com
ป.ล.2บทความนี้ ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใครแต่อย่างใด เพียงแต่อยากเป็นคนนึงที่ช่วยสร้างจิตสำนึกดีให้กับคนรุ่นใหม่ที่กำลังทำเว็บเท่านั้นครับ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด


บทความข้างต้น ผมยกมาจากเว็บไซด์ meewebfree.com นะครับ
Credit : http://meewebfree.com/site/something-in-the-world/65-fact-of-copyright-copy-content

    อยากให้เพื่อนๆนักเขียนด้วยกันได้รู้ถึงความพยายามและตั้งใจในการผลิตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านผู้เล่นทุกๆท่าน และช่วยเข้าใจถึงความยากลำบากในการสร้าง และคิดค้นเนื้อหาด้วยครับ

หากท่านต้องการนำบทความของผมไปดัดแปลง หรือเขียนใหม่ รบกวนให้ติดต่อก่อน คุยกันก่อนเป็นการส่วนตัวนะครับ contact ผมอยู่ที่หน้า "เกี่ยวกับ" แนะนำให้คุยใน Facebook เลยครับ ผมจะยินดีที่คุณสนใจในบทความของผมแล้วนำแนวคิดไปต่อยอดครับ

จากผม  : ผู้เขียนเนื้อหา ts-guide.blogspot.com

0 comments:

แสดงความคิดเห็น